วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเรียกพล

การเรียกพล 
            ผู้ที่ต้องถูกเรียกพลมีหลายประเภท แต่จะกล่าวถึงเฉพาะ "ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑ " คือ ทหารที่ปลดจากกองประจำการ โดยรับราชการในกองประจำการ จนครบกำหนด และทหารกองเกินที่จบการฝึกวิชาทหารในชั้นปีที่ ๓ (รด. ปี ๓) ขั้นไป เมื่อขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเมื่อปลดเป็นกองหนุนจะได้รับหนังสือสำคัญ(สด.๘) พร้อมกับสมุดประจำตัวทหารกองหนุน ประเภทที่ ๑ ไว้เป็นหลักฐาน 

            ภายในระยะเวลาประมาณไม่เกิน ๒ ปี ทางราชการจะเรียกเข้ารับราชการทหารในการเรียกพล ซึ่งจะไม่เรียกทุกคน ดังนั้น ผู้ที่ถูกเรียกพลก็จะต้องไปตามวัน เวลา และสถานที่ ที่กำหนดต่อไป 

           ๑. การเรียกพล มีดังนี้ 

                ๑.๑ การเรียกพลเพื่อตรวจสอบ คือ การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร กำหนดไม่เกิน ๑ วัน โดยกระทำในยามปกติเพื่อเข้ารับการตรวจสอบสภาพ ตรวจสอบบัญชี และซักซ้อมระเบียบ 
                ๑.๒ การเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร คือ การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร มีกำหนดไม่เกิน ๖๐ วัน โดยกระทำในยามปกติเพื่อเข้ารับการฝึกทบทวนวิชาทหาร 
                ๑.๓ การเรียกพลเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม คือ การเรียกกำลังพลสำรอง เข้ารับราชการทหารมีกำหนดไม่เกิน ๖๐ วัน โดยกระทำในยามปกติ และยามสถานการณ์คับขัน เพื่อทดสอบแผน หรือเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ 
                ๑.๔ การระดมพล คือ การเรียกกำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหารในยามที่ประเทศชาติอยู่ในสถานการณ์คับขัน โดยมีกำหนดเวลาขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้น เพื่อป้องกันประเทศ หรือปราบปรามจราจลและขยายกำลังอัตราสงคราม 

               การเรียกพลทั้ง ๔ ประเภทนี้ เป็นการเตรียมพล เพื่อให้กำลังพลมีประสิทธิภาพในการพร้อมรบอยู่ตลอดเวลา 

                ทหารกองหนุน เมื่อได้รับหมายเรียกพลจากนายอำเภอท้องที่แล้ว ต้องไปเข้ารับการเรียกพลตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายเรียกพล หากหลีกเลี่ยงขัดขืนจะมีความผิดตามกฎหมาย คือ หลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๓๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อฝึกวิชาทหาร หรือทดลองความพรั่งพร้อม หรือในการระดมพล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๓ เดือน ถึง ๔ ปี 

           ๒. การผ่อนผันการเรียกพล 

                ทหารกองหนุนผู้ใด ถ้าเห็นว่าตนจะได้รับการผ่อนผันไม่ต้องเรียกเข้ารับราชการทหารในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความพรั่งพร้อม เพราะเป็น 
                ๒.๑ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และข้าราชการ (ตั้งแต่ระดับ ๕ หรือเทียบเท่าขึ้นไป) ก็ให้แจ้งต่อสถานศึกษาหรือส่วนราชการที่ตนสังกัดอยู่ พร้อมส่งหลักฐานขอผ่อนผันไปยังกระทรวงกลาโหม ดังนี้
                    ๒.๑.๑ บัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๔๕) 
                    ๒.๑.๒ สำเนาหนังสือสำคัญ (แบบ สด.๘) 
                    ๒.๑.๓ สำเนาหมายเรียกพล (ถ้ามี) 
                    ๒.๑.๔ สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ - ชื่อสกุล(ถ้ามี) 
                    ๒.๑.๕ สำเนาหลักฐานการย้ายภูมิลำเนาทหาร (ถ้ามี) 
                ๒.๒ ครูหรืออาจารย์ ซึ่งประจำทำการสอนหนังสือ หรือวิชาการต่าง ๆ จะต้องไปขอผ่อนผันด้วยตนเองต่อนายอำเภอท้องที่ที่ทำการสอนอยู่ (ไม่ต้องส่งไปที่กระทรวงกลาโหม) โดยนำหลักฐาน ดังนี้ 
                    ๒.๒.๑ สำเนาหนังสือสำคัญ(แบบ สด.๘) 
                    ๒.๒.๒ หลักฐานรับรองว่าเป็นครูหรืออาจารย์ 
                    ๒.๒.๓ สำเนาทะเบียนบ้าน 
                    การขอผ่อนผัน นักเรียน นิสิต และนักศึกษา ให้สถานศึกษาจัดทำบัญชีรายชื่อ (แบบ สด.๔๕) ส่งไปยังกระทรวงกลาโหมทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ได้รับหมายเรียกพลก่อน ให้ขอผ่อนผันได้เมื่อเป็นทหารกองหนุนและอยู่ในระหว่างการศึกษา 

                    สำหรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นนายทหารสัญญาบัตรยศตั้งแต่ ว่าที่ร้อยตรี ขั้นไป จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับทหาร ว่าด้วยการแบ่งประเภทนายทหารสัญญาบัตร ซึ่งถือว่าเป็นนายทหารกองหนุน โดยปกติมีหน้าที่เข้ารับราชการปีหนึ่งไม่เกิน ๒ เดือน จึงไม่มีสิทธิที่จะขอผ่อนผันการเรียกพล 

                    ทหารกองหนุน เมื่อได้รับหมายเรียกพลแล้วขอได้สละเวลาไปรับราชการทหารด้วยความสมัครใจเพื่อเป็นการพบปะผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งเป็นการฝึกทวนแนะนำอาวุธใหม่ ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ดังนั้น อย่าได้คิดหลีกเลี่ยง ขัดขืน หรืออ้างความจำเป็นใด ๆ จนเป็นเหตุให้ขาดการปฏิบัติหน้าที่ที่ดีต่อชาติ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และประเทศชาติในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น